สายรับเหมาต้องรู้! ทำไมควรใช้ไม้แบบพลาสติก?

หากคุณคือผู้ที่ทำงานสายก่อสร้างหรือผู้รับเหมาและกำลังตัดสินใจว่าจะใช้ไม้แบบประเภทไหนดี

ขอบอกเลยว่า ถ้าพูดถึงเรื่องความประหยัดต้นทุน อายุการใช้งานยาวนาน มีความแข็งแรงทนทานสูง แถมคุณภาพดี “ไม้แบบพลาสติก” อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะกับงานก่อสร้าง

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าไม้แบบพลาสติกคืออะไร? จะสามารถช่วยประหยัดเวลา ประหยัดแรง ประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริงหรือไม่? วันนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักพร้อมกัน!

1. ไม้แบบพลาสติกคืออะไร?

คือ ไม้แบบที่ทำจากพลาสติก พอลิเอทิลีน (Polyethylene) ซึ่งมีคุณสมบัติต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น

  1. มีความเหนียวและทนทานมาก เนื่องจากมีพันธะทางเคมีที่ยืดเกาะกันอย่างแน่นเหนียว และมีดีไซน์ที่
  2. ออกแบบมาเพื่อการทำงานก่อสร้างที่รองรับทุกขนาดพื้นที่ไซท์งาน
    ออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อให้ด้านหน้าเรียบ ทำให้ได้งานหล่อคอนกรีตที่เรียบตามไปด้วย
  3. ด้านหลังเป็นครีบเสริมเหล็กกล่องเพื่อเพิ่มความแข็งแรงไม่ให้บิดเบี้ยวหรือเอียง
  4. Eco-friendly ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม เพราะทำมาจากพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งมีส่วนช่วยลดปัญหาโลกร้อนในระยะยาว
  5. คุ้มค่า คุ้มราคา ประหยัดต้นทุน เพราะใช้งานยาวนาน
  6. ถึงจะแข็งแรงทนทาน แต่มีน้ำหนักเบา จึงช่วยประหยัดแรงและกำลังคนที่ใช้แบกมากกว่าไม้แบบประเภทอื่น ๆ

2. ไม้แบบพลาสติกดีอย่างไร? ทำไมถึงควรใช้?

  1. น้ำหนักเบา ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติพิเศษของพลาสติกทำให้ขนย้ายง่าย ใช้คนน้อย
  2. สะดวกรวดเร็วเป็นแบบมาตรฐานไม่ต้องเสียเวลาในการตัด
  3. ช่วยลดสเต็ปการทำงาน เพราะไม่ต้องใช้ตัวหนอนในการประกอบ
  4. ดูแลรักษาง่าย ที่สำคัญทนทานต่อทุกสภาพอากาศ
  5. สามารถใช้ได้กับพื้นที่ไซท์งานก่อสร้างทุกประเภท ไม่ว่าจะอยู่ใกล้น้ำทะเล หรือในพื้นที่ดินเค็มเช่นในหลาย ๆ จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  6. ใช้กับงานได้ทุกประเภทเหมือนไม้อัดฟิล์มดำ
  7. ถอดแบบออกมาแล้วได้ผิวเรียบ สวย
  8. สามารถดัดแปลงใช้งานได้ทุกรูปแบบ
  9. คุ้มค่า ลงทุนทีเดียวคุ้ม ใช้ได้หลายครั้ง ไม่ต้องลงทุนบ่อยให้งบบานปลาย

3. ข้อจำกัดคืออะไร? ประหยัดแรง ประหยัดค่าใช้จ่ายจริงหรือ?

ที่จริงไม้แบบพลาสติกมีลักษณะเหมือนไม้ทั่วไป ซึ่งสามารถนำมาใช้งานร่วมกันได้ มีความทนทานต่อแดด ทนต่อน้ำ ทนต่อฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก จึงแทบไม่มีข้อจำกัดใด ถึงกระนั้นมีสิ่งที่ต้องระวังเล็กน้อย คือ ความร้อนจากลูกไฟ เปลวไฟที่ใช้จี้เชื่อมแต่สามารถใช้การตีตะปูแทนได้ นอกจากนี้ เมื่อถอนตะปูออกแล้วจะคืนรูปได้ เพราะเนื้อมีความยืดหยุ่นสูงมาก ทำให้โดนใจผู้รับเหมาเจ้าใหญ่หลายรายของ Son of Wood เป็นอย่างมากและได้รับเสียงตอบรับจากการใช้งานเป็นอย่างดี

เมื่อเทียบกับไม้อัดแล้ว ถึงแม้ไม้อัดจะให้ความเรียบได้เป็นอย่างดี และราคาต่อชิ้นถูกกว่าก็ตาม แต่ไม้อัดใช้ได้แค่เพียง 3 – 4 ครั้งเท่านั้น จึงต้องลงทุนบ่อยกว่า ส่งผลให้ต้นทุนสูงกว่าการซื้อแบบพลาสติกในระยะยาว (ในขณะที่แบบพลาสติกสามารถใช้ได้ถึง 100 – 200 ครั้ง ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา) ยิ่งกว่านั้นคือ ต้องเสียเวลาในการทำโครงคร่าว และเหมาะกับการทำพื้นมากกว่า

เมื่อเทียบกับแบบเหล็กแล้ว เหล็กต้องมีต้นทุนค่าน้ำยาทาแบบ (ซึ่งแบบพลาสติกไม่ต้องมี) ต้องใช้แรงคนจำนวนมากในการขนย้ายเพราะมีน้ำหนักมาก และมีองค์ประกอบรายละเอียดยิบย่อย ที่สำคัญคือ ดูแลรักษายาก ในกรณีที่เหล็กเสียรูปแล้วจะไม่สามารถทำให้คืนรูปได้ง่าย ๆ และไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ทำให้ปัจจุบันนี้ ไม่เป็นที่นิยมแล้วหากไม่กำหนดสเปกว่าจะต้องใช้แบบเหล็กจริง ๆ

สุดท้าย เมื่อคำนวณการลงทุนแบบล็อตใหญ่ครั้งเดียวของทั้งพลาสติก ไม้อัด และเหล็กในระยะยาวเทียบกันแล้ว แบบพลาสติกให้ราคาถูกที่สุดเมื่อหารต่อรอบการใช้งาน

4. ทำไมค่าใช้จ่ายลดลง เมื่อใช้ไม้แบบพลาสติก

โดยลองคำนวณจากขนาดบ้าน 60-70 ตร.เมตร เมื่อเทียบกับแบบไม้อัด

  • แบบพลาสติกมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 บาท/รอบ (ใช้ได้ 100 รอบ)
  • ส่วนไม้อัดฟิล์มดำค่าใช้จ่ายประมาณ 13,000 บาท/รอบ (ใช้ได้ 3 รอบ ขนาด 15มม.)
  • เพิ่มกำไร ลดต้นทุน >> ค่าใช้จ่ายลดลงมากกว่า 90%
    ทำให้กำไรมากขึ้นอย่างเหลือเชื่อ

หากใครยังสงสัย อยากเจาะลึกคุณสมบัติระหว่างไม้แบบเหล็กกับไม้แบบพลาสติก ก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับผู้เชี่ยวชาญด้านไม้แบบอย่าง SON OF WOOD ได้ทุกเวลา หรือถ้ามองหาไม้แบบพลาสติกที่ตอบสนองต่อการใช้งานตามข้อกำหนดของโครงการได้อย่างดี เราเองก็มีให้เลือกซื้อมากมาย เพราะที่นี่เราจัดจำหน่ายไม้แบบพลาสติกหล่อเสา หล่อคาน น้ำหนักเบา สำหรับทำฐานราก โครงสร้างอาคาร ทำพื้นหรือผนัง ที่ได้มาตรฐานในราคาคุ้มค่า พร้อมการันตีด้วยความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 10,000 ราย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราได้ดังนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *